ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเลือกรับประทานอาหารเสริม
(จากประสบการณ์ของแม่ค้าเองนะคะ.. ยินดีรับฟังความคิดเห็นทุกๆ ความคิดเห็นค่ะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)
อย่างที่ได้เกริ่นไว้แล้วนะคะ เพราะแม่ค้าเองก็รับประทานอาหารเสริมเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ เลยอยากเอาประสบการณ์มาแชร์แบ่งปันกันค่ะ
เนื่องจากอาหารเสริมมีหลากหลายประเภทนะคะ อาทิเช่น ชะลอวัย เพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันหรือรักษาโรคบางชนิด อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม (แยกได้อีกหลากหลายประเภท อาทิเช่น บำรุงผิว ผม เล็บ สายตา ป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ รักษาสิว ฯลฯ )
เพราะฉะนั้นผู้ที่จะรับประทานอาหารเสริม ควรต้องถามตัวเองก่อนว่า ต้องการรับประทานอาหารเสริมพื่ออะไร? จากนั้นจึงค่อยศึกษาหาข้อมูลก่อนว่าควรรับประทานอาหารเสริมตัวไหน? ปริมาณเท่าไหร่? มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง? (ในกรณีที่มีโรคประจำตัวควรหลีกเลี่ยงหรือไม่หรือต้องใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น ถ้าจะให้ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ)
เมื่อเลือกชนิดของอาหารเสริมที่จะทานได้แล้ว จากนั้นมาดูยี่ห้อกันค่ะ แนะนำว่าควรเลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพดี ผลิตโดยบริษัทที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญวัตถุดิบที่ใช้ควรมีคุณภาพดีด้วย (เพราะอาหารเสริมบางชนิดจะต้องเป็นวัตถุดิบที่มาจากบางประเทศเท่านั้นจึงจะมีคุณภาพดีค่ะ หรืออย่างเช่น ถ้าเป็นคอลลาเจนก็ควรเป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลเพราะมีโมเลกุลที่เล็ก ย่อยง่าย ร่างกายดูดซึมได้ดี อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ บางท่านอาจชอบรับประทานคอลลาเจนที่มาจากหมูหรือไก่ก็ได้นะคะ)
เมื่อเลือกยี่ห้อได้แล้ว (เลือกเผื่อไว้ 2-3 ยี่ห้อก็ดีนะคะ เผื่อเอาไว้เปรียบเทียบปริมาณและราคาว่าคุ้มค่ารึเปล่า) มาดูปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อครั้งกันค่ะ อันนี้ดูได้ง่าย ๆ จากตาราง Supplement Facts (ติดอยู่ข้างขวดของอาหารเสริมทุกชนิดต้องมี...ถ้าเป็นของที่ร้าน ส่วนใหญ่แม่ค้าจะอธิบายไว้ให้เกือบทุกชิ้นค่ะ) เราสามารถเปรียบเทียบปริมาณที่ทานแล้วร่างกายได้รับจริงๆ ในแต่ละยี่ห้อ จากข้อมูลตรงนี้ เอาที่สำคัญ ๆ นะคะ
1. Serving Size : ปริมาณที่แนะนำต่อครั้ง เช่น 2 หมายถึงรับประทานครั้งละ 2 เม็ด
2. Serving Per Container : จำนวนหน่วยบริโภคต่อหนึ่งภาชนะบรรจุ หรือ 1 กระปุกทานได้กี่ครั้งค่ะ
3. Amount Per Seving : ปริมาณสารที่ได้รับ ถ้ากินตาม Per Serving Size ที่กำหนดไว้ ย้ำว่า..สำคัญมากต้องดูดี ๆ ค่ะ
ตัวอย่างเช่น
ยี่ห้อที่ 1 Per Serving Size. : 2
Amount Per serving : 200 mg
หมายความว่า ทาน 2 เม็ดจะได้ปริมาณสารอาหาร 200 mg (1 เม็ด เท่ากับ 100 mg)
ยี่ห้อที่ 2 Per Serving Size : 1
Amount Per serving : 200 mg
หมายความว่า ทาน 1 เม็ดจะได้ปริมาณสารอาหาร 200 mg (1 เม็ด เท่ากับ 200 mg)
ยี่ห้อที่ 3 Per Serving Size : 2
Amount Per serving : 400 mg
หมายความว่า ทาน 2 เม็ดจะได้ปริมาณสารอาหาร 400 mg (1 เม็ด เท่ากับ 200 mg)
แต่ร้านที่จำหน่ายบางร้าน (บางยี่ห้อด้วยนะคะ) จะโฆษณาว่าทานยี่ห้อนี้จะได้ปริมาณที่สูงกว่ายี่ห้ออื่น แต่จริง ๆ แล้วความหมายคือ ต้องทานตามตาราง Supplement Facts จึงจะได้สารอาหารตามที่กำหนดไว้ (ตามที่โฆษณาไว้ด้วยค่ะ)
จากนั้นค่อยมาคำนวนราคาต่อต่อเม็ดค่ะ ว่าราคาเท่าไหร่ในปริมาณที่ทานแล้วได้สารอาหารเท่ากัน แต่ส่วนใหญ่แม่ค้าจะแนะนำให้เลือกจำนวนเม็ดที่น้อยแต่ให้สารอาหารสูงค่ะ (แน่นอนราคาต่อกระปุกจะสูงกว่า แต่ถ้านำมาคำนวนในปริมาณสารอาหาที่เท่ากันแล้วจะถูกกว่าค่ะ)
อาหารเสริมทุกชนิดใช้วิธีคำนวนแบบเดียวกันเลยค่ะ....ลองนำไปใช้ดูนะคะ
ที่สำคัญ...อาหารเสริมไม่ใช่ยาวิเศษนะคะ ที่กินแล้วจะทำให้คนดำกลายเป็นคนขาว คนอ้วนกลายเป็นผอม คนไม่สวยกลายเป็นคนสวยได้ ยังต้องมีปัจจัยอื่น ๆ อีกค่ะ เช่น ลักษณะผิวพรรณ สีผิว กรรมพันธุ์ (อันนี้ขึ้นกับบุญ วาสนาของแต่ละคนแล้วหล่ะค่ะ 55555) อายุ เพศ และที่สำคัญคือการดูแลตัวเองค่ะ
อยากผอม อยากหุ่นเป๊ะ..ต้องขยันออกกำลังกายและควบคุมอาหาร อยากผิวสวยต้องดูแลผิวพรรณ หมั่นขัดผิว ทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ อยากขาวต้องขยันทาครีมกันแดด อาหารเสริมเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งจากภายใน ผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละคนจึงไม่เท่ากันค่ะ...ไม่ควรทานอาหารเสริมตามคำโฆษณานะคะ
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ
www.beautyboostershop.com
beautyboostershop@gmail.com
Line Id : beautyboostershop
Tel. 0865659524
เปิดร้าน | 28 ม.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |
Thank You